ช่องแคบมะละกา"จุดยุทธศาสตร์โลก" (Strait of Malacca)
นี่คือ.."จุดยุทธศาสตร์โลก" ช่องแคบมะละกา (Strait of Malacca) เป็นช่องแคบระหว่างแหลมมลายูและเกาะสุมาตรา อยู่บริเวณทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทย ตะวันตกและใต้ของมาเลเซีย ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือและเหนือของเกาะสุมาตรา และเลยไปถึงทางด้านใต้ของสิงค์โปร์ ระบุพิกัดที่ประมาณ 1.43 องศาเหนือ และ 102.89 องศาตะวันออก ช่องแคบมะละกา ถือเป็นทั้งจุดยุทธศาสตร์ และทำเลทองของวงการธุรกิจโลก เนื่องจากเป็นรอยต่อของ 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ประกอบกับการเป็นเส้นทางเดินเรือที่ใช้ขนถ่ายสินค้าและน้ำมันที่สำคัญทั้งในทวีปเอเชียและทั่วโลก ประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลกจึงปรารถนาจะเข้ามาแผ่อิทธิพลเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในดินแดนปลายสุดแหลมมลายู และ ด้วยเหตุนี้ ทั้ง 3 ประเทศที่ครอบครองดินแดนในช่องแคบดังกล่าว จึงต้องเดินเกมทั้งทางการเมืองและการทหาร เพื่อรักษา "สมดุลแห่งอำนาจ" เพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติไว้ให้ได้มากที่สุด
แม้จะไม่ได้มีน่านน้ำอยู่ในช่องแคบดังกล่าวโดยตรง แต่ประเทศไทยก็ถูกลากโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเกมแห่งอำนาจจนได้ เมื่อทั้ง 3 ประเทศ ร้องขอให้ไทยส่งกำลังทหารเข้าไปลาดตระเวนในจุดยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลเพื่อต่อต้านภัยการก่อการร้ายและโจรสลัด
ช่องแคบมะละกา ตั้งอยู่ระหว่างประเทศมาเลเซียกับประเทศอินโดนีเซีย โดยมีประเทศสิงคโปร์อยู่ที่ปากทางเข้าด้านใต้ ขณะนี้กำลังมีการขนสินค้าผ่านช่องทางนี้มากกว่า 1 ใน 4 ของการค้าโลกทั้งหมด เป็นเส้นทางเดินเรือทะเลที่สำคัญที่สุดทางยุทธศาสตร์ และเป็นเส้นทางที่เสี่ยงต่ออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะภัยก่อการร้าย และโจรสลัด ที่ฝังตัวหากินกับเรือพาณิชย์ที่แล่นผ่านสัญจรเข้า-ออก เป็นจำนวนมาก โดยในแต่ละปีเรือพาณิชย์กว่า 5 หมื่นลำ ล้วนแต่ใช้ช่องแคบแห่งนี้ ซึ่งมีความยาวกว่า 800 กม. เป็นทางผ่านในการขนส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก
จากสถิติของสำนักงานเดินเรือทะเลระหว่างประเทศ พบว่า ทั่วโลกต้องประสบกับภัยโจรสลัดที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงระยะเวลา 10 ปี สูงถึง 3 เท่าของการโจรกรรมสินค้า ปีล่าสุดมีสถิติสูงขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มียอดสูงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะการโจรกรรมเรือบรรทุกน้ำมัน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ ก๊าซธรรมชาติเหลวทุกลำจากตะวันออกกลาง ที่มุ่งหน้ามายังแถบเอเชีย ที่จะต้องผ่านช่องแคบมะละกา โดยมีบริษัทเดินเรือ 400 แห่ง
ขณะที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของน้ำมันที่ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน สั่งน้ำเข้าจากอ่าวเปอร์เซีย ต้องใช้เส้นทางนี้เช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้ สหรัฐอเมริกาได้เคลื่อนย้ายกำลังทหารเข้ามาอย่างเงียบๆ ด้วยการแฝงตัวมากับเรือบรรทุกสินค้าเพื่อดูลาดเลา เพราะต้องการเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในช่องแคบแห่งนี้ กระทั่ง มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งมีพื้นที่ตั้งอยู่บนสองฟากฝั่งช่องแคบมะละกาแสดงความไม่พอใจอย่างมาก
แต่ "วาระซ่อนเร้น" ย่อมหนีไม่พ้นการ "คานอำนาจ"
ของมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ..แน่นอน !!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น