วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ศึกพญามังรายก่อนจะเป้นล้านนากับพญายีบาของหริภุญชัย


กลศึกตั้งแต่โบราณ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ การศึกนั้นบกบอกถึงการแพ้ชนะก็คือ 1.เรื่องข่าวกรอง 2.เรื่องใส้ศึก อย่างส่งครามระหว่าง แค้วนนครรัฐ อย่าง นครรัฐหริภุญชัย กับ นครรัฐอย่าง เมืองฝาง เมืองฝางนี้เป็นเมืองที่ พญามังราย ได้สร้างก่อนที่จะสร้างเมืองเชียงใหม่และเมืองเชียงใหม่ก็กลายเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนาในเวลาต่อมา

เนื่องด้วยเมืองหริภุญชัย นั้น เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่เจริญไปด้วย อารายะธรรม เศรฐกิจ การเมือง การปกครอง การศาสนา ที่ดีเยียม รัฐหนึ่ง โดยเฉพาะระบบเศรฐกิจ เป็นเมืองที่ตั้งตนเป็นศูนย์กลางทางการค้าระหว่าง รัฐในหุบเขากับรัฐที่มีทางออกทะเล และก็เก็บส่วยเป็นรายได้ ซึ่งระบบทั้งหมดนั้นได้รับอิทธิพลการจัดการมาจาก อาณาจักรทวารวดี 

ส่วนทาง เมืองฝาง ซึ่งมีพญามังรายนั้น เป็นเมืองรัฐที่หางไกล ไม่มีระบบการเมืองการปกครองและศาสนาที่ดีเทียบเท่ากับทางหริภุญชัย และเมื่ออยากได้ความเจริญมาเป็นของตนเองนั้น วิธีีการที่ง่ายที่สุดก็คือ การยึดมาเป็นของตนเองซะ โดยแรกเริ่มนั้น ด้านพระยามังรายได้สอบถามและหาข้อมูลข่าวกรองจากพวกพ่อค้าที่ค้าขายสินค้า ระหว่างรัฐ แล้วได้ความว่า "เมื่อนั้น ชาวพ่อค้าเมืองหริภุญไชย (ลำพูน) ไปค้าขายเถิงเมืองฝางหลายนัก" เจ้ามังรายจึงหาพ่อค้ามาถามดูว่า เมืองหริภุญไชยที่สูอยู่สมริทธีเป็นประการใด พ่อค้าทั้งหลายไหว้ว่า สมริทธีด้วยข้าวของมากนัก พ่อค้าทางบกทางน้ำเทียวมาค้า เมืองโยธิยาก็มา ชาวเมืองก็สมริทธี(หมายความว่า มั่งคั่งร่ำรวย มั่นคง)ดีมาก พญาถามซ้ำว่า "พญาเจ้าเมืองสูยังสมริทธีด้วยรี้พลช้างม้าข้าคนสรีสมบัติบ้านเมืองหรือ" พ่อค้าทั้งหลายไหว้ว่า พญาเจ้า ในเมืองตูข้าโพ้นสมริทธีด้วยช้างม้าข้าคนมากนัก ทรัพย์สมบัติมากหลาย "

 อันนี้คือข่าวกรองเบื้องต้น เมื่อได้ขอมูลแล้วก็ได้ปรึกษาเสนา ทั้งหลาย โดนเฉพาะ เสนาที่ชื่อ อ้ายฟ้า และ อ้ายห้าคนนี้ได้ออกความเห็นว่า การที่จะตีเมืองหริภุญชัยนั้นยากนักแต่ก็มีวิธีอยู่ คือ ส่งตนเข้าไปเป็นไส้ศึก และออกอุบายว่า อ้ายฟ้านั้น ทำผิดร้ายแรง ถึงขั้น ถูกเฆี่ยนตีริบบ้านเรือนลูกเมียแล้วเนรเทศออกจากเมือง และ อ้ายฟ้านั้นก็ หนีไปอยู่เมืองหริภุญชัยซึ่งในขณะนั้นมีกษัตริย์ปกครองชื่อว่า "พญายีบา" ด้วยความเฉลียวฉลาดของ อ้ายฟ้าก็ไปเข้าตาของพญายีบา จึงให้เข้ารับราชการในอาณาจักรแล้วก็ขยับตำแหน่งสูงขึ้นเป็นถึงเสนาใหญ่ 

เมื่อได้เป็นใหญ่และได้รับความไว้วางใจระดับสูงหนึ่งก็เริ่ม ทำแผนใส้ศึกด้วยการ ปรับเปลี่ยนตำแหน่งและสร้างความแตกแยกให้กำเหล่าเสนาของพญายีบา แล้วปรนเปรอความสุขให้พญายีบาด้วย สิ่งเริงรมญ์ต่าง ๆ จนพญายีบาไม่ได้ออกมาว่าราชการและให้ อ้ายฟ้าเป็นผู้ดูแล เมื่อมีงานต่าง ๆ อ้ายฟ้าก็จัดการ เช่นการสร้าง กำแพงเมือง การขุดแม่น้ำ ลำคลองทางส่งน้ำ ไปตัดไม้ มีงานหนักและ เกณฑ์ชาวบ้านไปทำตลอดทั้งปี โดยไม่มีเวลาว่างเว้นไปทำไร่ทำนาหากิน โดยอ้างพญายีบาเป็นคนสั่งตลอด โดยเฉพาะการตัดไม้ เวลาตัดไม้แล้วใช้ช้างลาก โดยปกติต้องลากเป็นแนวตรงแต่ก็ได้ลากเป็นแนวขวางและตัดผ่านทุ่งนาทำกินของชาวบ้านสร้างความเดือดร้อน และเกลียดชังของชาวบ้านที่มีต่อพญายีบา และได้ปล่อยข่าวถึงความไม่ดีของพญายีบา และเริ่มปล่อยข่าวถึง พญามังรายว่า เป็น คนดี สร้างภาพในแง่บวก ให้ดับชาวบ้าน 

เมื่อเหตุการถึงขีดสุด อ้ายฟ้าก็ส่งคนไปแจ้งข่าวให้กับพญามังราย ยกพลเข้ามาบุกปล้นชิงเมืองหริภุญชัย และอ้ายฟ้าจะเปิดประตูเมืองรับ และเมื่องพญามังรายยกทัพมาถึง ก็เกิดการสู้รบกัน แต่ทางฝ่ายหริภุญชัย นั้นได้เสียรู้ไปแล้ว เช่นเรื่องความแตกแยกของเหล่าเสนา ทำให้ไม่มีคนออกไปปกป้องบ้านเมืองและชาวบ้านก็เกลียดพญายีบาเพราะสร้างความเดือดร้อนให้และยินดีที่จะอยู่ใต้การปกครองของพญามังรายแทน และในเวลาอีกไม่นาน นครรัฐ หริภุญชัยทั้งหมดก็ตกเป็นของพญามังรายและกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนาในที่สุด 

พิมพ์ผิดๆถูกๆบ้างอย่าได้ว่ากันเลยนะครับกับสงครามโบราณ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น