วันที่ 30 ธ.ค.57
เครื่องบินหวิดร่วงที่ลอนดอนอีกแล้ว
เครื่องบินโดยสารของสายการบินเวอร์จินแอตแลนติก ชนิดโบอิ้ ง 747 เที่ยวบิน VS43 พร้อมด้วยผู้โดยสาร และลูกเรือ 462 คน ออกจากท่าอากาศยานแกตวิค ในกรุงลอนดอน ที่เป็น ท่าอากาศยานใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของอังกฤษ มุ่งหน้าไปยังลาสเวกัสของ สหรัฐ
แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อล้อเครื่องบินเกิดมีปัญหาเอาดื้อๆ ทำให้นักบินได้นำเครื่องบิน ทำการบินวนไปทางตอนใต้ของอังกฤษ เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงให้เหลือน้อยลง และลดน้ำหนักของเครื่องบิน ท่ามกลางความวิตกกังวลจิตตก ของผู้โดยสาร
นักบินร้องขอสนามบินว่า ต้องนำเครื่องกลับมาลงจอดฉุกเฉิน ที่ท่าอากาศยานแกตวิคดังเดิม ทำให้ท่าอากาศยานฯ ต้องปิดทางวิ่งด้านหนึ่งเป็นการชั่วคราวราว 4 ชม. โดยห้ามเครื่องบินขึ้น และลง จนนักบินลำนี้สามารถนำเครื่องบิน ลงจอดได้สำเร็จ แต่ก็ทำให้ผู้โดยสารบางคนบาดเจ็บเล็กน้อย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และรถพยาบาลได้รีบรุดไปยังเครื่องบินอย่างรวดเร็ว หลังจากเครื่องลงจอด และท่าอากาศยานสามารถเปิดทางวิ่งได้อีกครั้งเมื่อเช้าตรู่วันนี้
นี่แหละ สนามแม่เหล็กที่แปรผันรุนแรง จะทำให้ระบบอิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ ชำรุดและใช้การไม่ได้ตามปกติ ยิ่งเมื่อเครื่องบินลอยขึ้นฟ้า ก็จะรับรังสีจากดวงอาทิตย์พุ่งเข้ามาปะทะเสริมอีกปัจจัยหนึ่ง ยังดีที่ระบบสื่อสารใช้การได้ และนักบินเก่ง ที่บินวน จนคะเนปริมาณน้ำหนักน้ำมันเหลือได้พอดี
ถ้ามีน้ำมันหนักกว่านี้ หรือขืนบินต่อไปลงที่มะกัน เครื่องบินล้อกางไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมฟังคำสั่งของระบบอิเลคทรอนิกส์ ผลที่ออกมาอาจเศร้าฉลองปีใหม่ ที่ปีนี้ผู้โดยสารโดยเครื่องบินตายรวมกันไปแล้วกว่า 700 รายแล้ว
และวันนี้เช่นเดียวกันครับ ไทยแอร์เอเชียเกิดเหตุขัดข้อง ขอลงดอนเมือง
สายการบินไทยแอร์เอเชีย ซึ่งบินต้นทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ ปลายทางถึงสนามบินท่าอากาศยานขอนแก่น เกิดเหตุขัดข้องระหว่างเครื่องบินทะยานขึ้นได้ไม่นาน ทำให้ต้องขอบินกลับมาลงจอดที่สนามบินดอนเมืองอีกครั้ง รายละเอียดอยุ่ในระหว่างการตรวจสอบ
ขอเตือนว่าวันนี้ได้เกิด พายุสุริยะมากระทบสนามแม่เหล็กโลก ระดับชั้น G1 ค่า KP=5 จะเกิดผลกระทบระบบพลังงาน ระบบการควบคุมแรงดันไฟฟ้าอาจเกิดปัญหาได้ รบกวนสัญญาณโทรศัพท์ และระบบนำทางของเครื่องบินหรือเรือเดินสมุทร ดาวเทียมอาจเกิดความผิดปกติหรือเสียหายได้
ภาพแสงออโรร่า ที่เกิดจากรังสีของดวงอาทิตย์ เข้าปะทะโลกในภูมิภาคต่างๆ เช่น แถบอาร์คติก อลาสก้า แคนาดา นอร์เวย์ จนสนามแม่เหล็กโลกได้รับผลกระทบแปรปรวน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำเกิดพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง ฝนตกหนัก อากาศหนาวเย็นเฉียบพลัน อุณหภูมิลดลง หิมะตกหนัก ไปทั่วโลก
อากาศที่เย็นลงฉับพลัน ทำให้หิมะตกอย่างหนักย่านเทือกเขาแอลป์ ของฝรั่งเศส ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 ถนนหนาไปด้วยหิมะ การจราจรเป็นอัมพาต ระนักนักท่องเที่ยวกว่า 15,000 คัน ไปต่อไม่ได้...หากรัสเซียตัดการส่งก๊าซไปขายให้ EU ตอนนี้ จะได้เห็นประชาชนหนาวตายเป็นเบือจำนวนมาก และธุรกิจวินาศยับเยิน
มนุษย์ในบางพื้นที่ปรับตัวไม่ทัน เช่น ภาคตะวันออกของอินเดียส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 130 ราย เที่ยวบินล่าช้าไปแล้ว 137 เที่ยว ยกเลิกอีก 14 เที่ยว , รถไฟที่ล่าช้าไป 78 เที่ยว เพราะทัศนวิสัยแย่
การขึ้นบินในขณะอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน อุณภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งมากๆ น้ำแข็งสามารถเกาะเครื่องยนต์จนน็อคได้ และจะทำให้เครื่องบินเสียการทรงตัว ต้องขอลงฉุกเฉินเหมือนเที่ยวบินมะกัน ที่ขอลงในญี่ปุ่น แต่ถ้ายังฝืนบินต่อ ย่อมทำให้เที่ยวบินนั้นกลายเป็นเที่ยวบินมรณะได้
ช่วงนี้จึงเห็นพายุฝนกระหน่ำภาคใต้ของไทยอย่างต่อเนื่อง และมีพายุลูกใหม่กำลังก่อตัวแถวฟิลิปปินส์ตายไปแล้ว 3 ราย ทิศทางมาทางใต้ของไทยหลังปีใหม่ ต้องประเมินราววันที่ 2 ม.ค.58 ว่าจะสลายตัวในอ่าวไทยไปหรือไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น